วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ดินแดนโลกแห่งความฝัน

ดินแดนโลกแห่งความฝัน
Land of Dream World

     คุณมีความฝันไหม? แน่นอนว่าทุกคนย่อมมีความฝัน มีเรื่องราวความฝันต่างๆนาๆของตนเอง บางเรื่องก็เป็นความฝันที่เป็นสุข สนุกสนาน และน่าตื่นเต้นจนไม่อยากตื่นขึ้นมาในโลกความเป็นจริง บางเรื่องก็แสนจะน่ากลัวโหดร้าย เป็นฝันร้ายที่อยากจะหนีไปให้พ้น และบางเรื่องก็อาจเป็นแนวทางบางอย่างที่จะเป็นความจริงขึ้นมาก็เป็นไปได้ 
    โดยธรรมชาติแล้วความฝันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นชั่วครั้งชั่วคราวไม่แน่นอน สิ่งเป็นสิ่งที่เรายากที่จะจำได้ และถึงแม้ว่าจะจำได้มักจะอยู่ในรูปแบบของรูปภาพหรือเรื่องราวบางอย่างซึ่งจะจดจำได้นานแค่ไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับความรู้สึกที่คุณได้รับจากฝันนั้น แต่ส่วนใหญ่แล้วความฝันมักจะถูกลบเลือนหายไปในเวลาต่อมา ความฝันไม่ใช่เป็นเพียงเรื่องน่าทึ่งเท่านั้น แต่มันสามารถเป็นแนวทางของการหยั่งรู้และแรงดลใจ เรามีวิธีการแนะนำที่จะช่วยให้คุณจดจำและเข้าใจความฝันได้ดีขึ้น  ซึ่งสามารถเป็นแนวทางนำไปวิเคราะห์พิจารณาเหตุการณ์เรื่องราวของความฝันนั้น เพื่อนำไปสู่การปรับใช้ในชีวิตความเป็นจริงของคุณเอง
   การนอนหลับคือการพักผ่อนอย่างหนึ่งของร่างกาย ระบบเผาผลาญและการทำงานของร่างกายจะช้าลง แต่ระบบการเจริญเติบโตและการบำรุงซ่อมแซมจะทำงานในช่วงเวลานี้ ดังนั้นการอดนอนหรือพักผ่อนไม่เพียงพอทำให้ขาดสมาธิ ความจำล้มเหลวและอารมณ์หงุดหงิด
    หลับแล้วทำไมต้องฝัน
รูปแบบการหลับ
     วงจรการนอนแบ่งออกเป็นหลายขั้นตอน ขั้นตอนแรกคือช่วงการหลับแบบคลื่นช้า ขณะที่สมองยังคงตื่นอยู่ ระดับการหายใจและการเต้นของหัวใจลดลง การหลับแบบคลื่นช้าแบ่งออกได้ 4 ช่วง ช่วงสุดท้ายคือการหลับลึกที่สุด เป็นช่วงที่ปลุกได้ยากที่สุด หลังจากนั้นไปสักระยะเวลาหนึ่งจะเข้าสู่ช่วงที่เรียกว่าระดับ REM ซึ่งมักจะเกิดความฝันในช่วงนี้ ระดับ REM จะเกิดขึ้นประมาณ 4-5 ครั้ง ในหนึ่งคืนระหว่างระยะเวลาที่หลับ แต่ละครั้งจะกินเวลานานขึ้นจนถึงช่วงสุดท้ายของการนอนก่อนที่คุณจะตื่นขึ้นมา
ทำไมถึงฝัน 
    จากการศึกษาแสดงให้เห็นว่า ถ้าไม่มีความฝันแบบ REM ความฝันจะถูกรบกวนและคลายความเข้มลง มนุษย์ก็จะพยายามปะติดปะต่อคว้าความฝันทันทีที่หลับอีกครั้งโดยฝันมากกว่าปรกติ ความฝันนั้นมาจากการที่คนเราแปลสัญญาณจากโลกภายนอก ซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบของการสนองความหวัง ความต้องการ อารมณ์ หรือความรู้สึกนึกคิดอะไรบางอย่าง ความฝันอาจเป็นวิธีสนองของเรื่องราวข้อมูลที่เราได้รับและประสบมา รวมทั้งการพิจารณาความคิดและเกาะติดเรื่องราวต่างๆ
สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างที่หลับฝัน
   จากการวิจัยพบว่า ความฝันเกิดขึ้นตลอดทั้งคืน ไม่เพาะในการหลับแบบ REM เท่านั้น และความฝันอาจเป็นเรื่องราวมากกว่าเรื่องเดียวในระหว่างที่หลับฝันอยู่ แต่อาจส่งผลให้มักถูกลืมได้ง่ายๆ ความฝันมักเสนอภาพและความคิดที่ติดค้างอยู่ในใจ ส่วนความฝันที่มาจากการหลับลึกมักเป็นส่วนของความรู้สึกอารมณ์และความคิดมากกว่าภาพ เมื่อถูกรบกวนพวกเขาจะอ่อนเพลียสับสนและไม่สามารถจำความฝันได้ ในทางตรงข้าม ถ้าหากได้พักผ่อนนอนหลับอย่างเต็มที่จะทำให้จดจำความฝันได้อย่างชัดเจน
   ร่างกายเองก็มีปฎิกิริยาแตกต่างกันไปในความฝันต่างๆ คุณอาจมีท่าทางกระตุกพูดคุยออกมา หรือแม้แต่ละเมอ ร่างกายมักจะนอนอยู่นิ่งๆ ระบบสมองยังคงทำงาน แต่กล้ามเนื้อต่างๆจะอ่อนเพลีย
ทำไมถึงลืมความฝัน
   มีบางคนอ้างว่าไม่เคยฝันเลย นั่นเป็นเพราะพวกเขาจำความฝันไม่ได้ต่างหาก ความฝันเป็นสิ่งที่ยากจะจำได้ มันมักโกลาหลและชวนสับสน มันมักเกิดขึ้นเป็นห้วงๆจากภาพหนึ่งไปยังอีกภาพหนึ่ง ความทรงจำเกี่ยวกับความฝันจึงเป็นช่วงๆ ไม่แน่นอน ดังนั้นการนึกถึงจดจำความฝันเป็นเรื่องรวมๆ หรือความสำคัญเฉพาะจะเป็นสิ่งที่ง่ายกว่า
การเตรียมตัวนอนหลับ
     จงเข้านอนด้วยความรู้สึกปลอดโปร่ง ทิ้งช่วงเวลาทุกอย่างไว้ข้างหลัง มุ่งมั่นไปยังคืนอันสงบที่อยู่ข้างหน้า ถ้าคุณเป็นคนชอบนอนดึก ให้เข้านอนเร็วขึ้น ธรรมชาติการนอนหลับของมนุษย์คือการนอนเร็วตื่นเร็ว ดังนั้นอย่านอนดึกโดยไร้สาระ
เทคนิคการผ่อนคลาย คิดว่าห้องนอนของคุณเป็นสวรรค์แห่งการพักผ่อนในบ้าน เป็นที่ที่คุณสามารถหลีกหนีความวุ่นวายได้ อย่าเอาเครื่องใช้ไฟฟ้าเช่น โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ รวมทั้งเอาการงานมากองไว้ในห้องนอน ใช้สีและแสงไฟที่ดูอบอุ่นนุ่มนวล จัดห้องให้มีความสะอาดดูสดชื่น หลีกเลี่ยงการดื่มสารคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือการทานอาหารก่อนเข้านอน รวมทั้งการทำอะไรที่ตื่นเต้น ตื่นตัว อย่างน้อยสักหนึ่งชั่วโมง เพราะมันอาจทำให้คุณนอนไม่หลับ ให้ดื่มเครื่องดื่มอย่างเช่น นมร้อน สักแก้วหนึ่งเพื่อช่วยในการนอนหลับ เมื่อนอนอยู่บนเตียง จงผ่อนคลายร่างกายด้วยการเพ่งสมาธิไปยังส่วนต่างๆ จากเท้าไปหาศีรษะ หากคุณมีปัญหานอนไม่หลับขึ้นมา พยายามอย่าย้ำเตือนตนเองเรื่องนี้ เพราะในที่สุดร่างกายจะเรียกร้องทำให้เกิดการพักผ่อนได้เต็มที่เอง อย่างไรก็ตามถ้าคุณเป็นโรคนอนไม่หลับควรปรึกษาแพทย์
    ก่อนปิดไฟ บอกตัวเองว่า คุณผ่อนคลายทั้งรางกายและจิตใจ ถ้าหากอยากจะจดจำความฝันของตนบอกตัวเองซ้ำๆว่า ฉันจะจำความฝันของฉันให้ได้ เพื่อเป็นการยืนยันกับกับตนเองอย่างนุ่มนวล กลิ่นของบางสิ่งบางอย่างมีผลช่วยในการนอนหลับและเป็นตัวช่วยในเรื่องของความฝัน อย่างเช่น สมุนไพรต่างๆ พืชพันธุ์ดอกไม้ น้ำมันหอมระเหย เป็นต้น คุณอาจลองใช้สิ่งเหล่านี้เป็นตัวช่วยในการนอนหลับของคุณ ท้ายที่สุดให้แขวนกับดักฝัน เอาไว้เหนือเตียง ซึ่งในวัฒนธรรมของชาวอเมริกันพื้นเมือง มักใช้ตาข่ายถักเป็นรูปกลมตกแต่งด้วยลูกปัดและขนนก ตาข่ายนี้เป็นที่ดักฝันร้ายที่จะระเหยไปพร้อมกับแสงแรกของพระอาทิตย์ยามรุ่ง ขณะที่ฝันดีทั้งหลายจะตกลงมายังผู้ที่นอนหลับอยู่เบื้องล่าง
   การวิเคราะห์ความฝัน Analysing Dreams
สิ่งเหล่านี้คือวิธีการต่างๆที่ช่วยให้คุณนั้นเข้าใจและจดจำความฝันได้ดียิ่งขึ้น
เก็บความฝันไว้ในสมุดบันทึก   ซื้อสมุดบันทึกมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ วางไว้ข้างเตียงพร้อมกับปากกาตลอดเวลา นั่นหมายความว่าถ้าคุณตื่นขึ้นมากลางดึก คุณจะสามารถจดบันทึกเรื่องราวของความฝันได้ทันที ถ้ามีโคมไฟข้างเดียงด้วยก็จะเป็นการสะดวกมากยิ่งขึ้น ทันทีที่คุณตื่น ก่อนเริ่มจรดปากกาเขียนให้หลับตาสักพัก พยายามจับความฝันก่อน ความฝันส่วนมากจะเป็นภาพต่างๆ ให้ปะติดปะต่อความฝันทั้งหมดเข้าด้วยกัน ถ้าจำภาพใดไม่ได้เลย ลองพยายามทบทวนว่าคุณรู้สึกอย่างไร วิธีนี้จะช่วยก่อรูปความฝันได้ แม้การบันทึกความฝันนี้จะดูเป็นเรื่องที่ไม่เข้าท่าหรือไร้สาระสำหรับคุณก็ตาม แต่ถ้าคุณอยากวิเคราะห์เรื่องราวความฝันอย่างจริงจัง ก็ควรตั้งใจทำให้เป็นนิสัย พยายามหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมอื่น เช่นการอาบน้ำ หรือทานอาหารและเครื่องดื่มหลังจากที่ตื่นนอน เพราะจะเป็นการหยุดรวบรวมสมาธิทำให้ลืมความฝันไป จึงควรบันทึกความฝันทันทีที่ตื่นแล้วจะดีที่สุด 
   วิธีการวิเคราะห์
สิ่งต่างๆเหล่านี้สำคัญอย่างมากในการวิเคราะห์เรื่องราวความฝันของคุณ พยายามเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับความฝันให้ได้มากที่สุด ยิ่งคุณเขียนบันทึกได้ยาวมากเท่าไร ก็จะได้สิ่งที่เกี่ยวข้องมากขึ้นเท่านั้น
ฉาก: สถานที่ที่ปรากฎอยู่ในความฝัน ความฝันของคุณเกิดขึ้นที่ใด บรรยากาศแวดล้อมที่คุณมองเห็นและได้สัมผัส ความรู้สึกที่คุณมีต่อบริเวณสถานที่เหล่านี้
บุคคล: บุคคลต่างๆที่ปรากฎขึ้นในความฝันของคุณ ทั้งที่คุณรู้จักและไม่รู้จัก รูปร่างหน้าตาท่าทาง การแต่งตัว สิ่งที่รู้สึกจากอีกฝ่าย 
เรื่องราว: ความฝันของคุณมีการดำเนินเรื่องราวเป็นไปอย่างไร ตัวคุณมีบทบาทอย่างไรในความฝันนั้น มีการกระทำอะไรบ้างที่ปรากฎในฝันของคุณ
คำพูดหรือวลี: คำพูดหรือประโยคต่างๆที่มีความชัดเจนเด่นชัด การสนทนาตอบโต้ต่างๆ สิ่งต่างๆที่ได้พูดและฟังในเรื่องราวความฝันที่ตนสามารถจำได้ขึ้นใจ
ส่วนประกอบต่างๆ: ได้แก่ สัตว์ต่างๆ สิ่งของ ยานพาหนะ สิ่งที่เป็นวัตถุ หรือแม้แต่สัญลักษณ์พิเศษอะไรบางอย่าง
ความรู้สึก: อารมณ์ความรู้สึกต่างๆที่คุณมีต่อความฝันนั้น เช่น ดีใจ เสียใจ หวาดกลัว ตื่นเต้น
อื่นๆ : ได้แก่ ช่วงเวลา ฤดู สิ่งต่างๆอื่นๆที่มีเข้าเสริมเพิ่มเติมเรื่องราวความฝันของคุณ
  
 
   ฝันร้าย Nightmares
คนเรามักจำฝันร้ายได้ อาจเป็นเพราะด้วยความจริงที่ว่าคนส่วนมากฝันถึงบ่อยๆ ในการศึกษาพบว่าคนฝันร้ายอย่างน้อยหนึ่งครั้งในหนึ่งอาทิตย์แม้ว่าจะดำเนินชีวิตอย่างปลอดภัย ก็ยังมีการฝันร้ายเกิดขึ้นอยู่บ้าง และความกระวนกระวายมักเป็นความฝันที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุด
ประสบการณ์ฝันร้าย
ฝันร้ายประกอบด้วยความกระวนกระวายหลายระดับ จากการกังวลปานกลาง ไปจนถึงความหวาดหวั่นพรั่นพรึง มันเป็นความรู้สึกตื่นกลัวฝันร้าย มากกว่าจะกลัวตัวความฝันเอง และเป็นส่วนที่ชวนให้หงุดหงิดมากที่สุดของความฝัน แม้ว่าคุณจะไม่สามารถจำรายละเอียดต่างๆได้ แต่มันก็ทำให้คุณรู้ได้ว่าฝันร้าย ในกรณีที่รุนแรงคุณอาจตื่นขึ้นด้วยอาการทางร่างกาย เช่น เหงื่อแตก หัวใจเต้นแรง ตะโกนโวยวาย หรือแม้แต่ร้องไห้ ก็เป็นได้
สาเหตุของฝันร้าย   
ตัวการที่สำคัญที่สุดคือ จิตวิทยาสังคม ถ้าคุณกำลังวิตกกังวลหรือทุกข์ทรมานเรื่องใดเรื่องหนึ่งในตอนกลางวัน ความรู้สึกเหล่านั้นยังคงติดอยู่ในจิตสำนึกตอนกลางคืน มันจะสะท้อนออกมาในความฝัน เช่น การถูกเมิน การถูกต่อว่าตำหนิ การกระทำประสบกับสิ่งที่ผิดพลาด หรือพบเจอกับสิ่งที่ไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน การมีความกังวลใจในเรื่องต่างๆ การได้รับประสบการณ์ความรุนแรง เป็นต้น แต่ปัจจัยอื่นก็เป็นสาเหตุให้เกิดฝันร้ายได้ อย่างเช่น การรับประทานอาหารมากเกินไปก่อนเข้านอน การใช้ยาบางชนิด การบำบัดลดอาการจากเหล้าบุหรี่ยาเสพติด การเกี่ยวข้องรับชมเรื่องราวที่น่ากลัว เป็นต้น
ความไวต่อการฝันร้าย
ทำไมบางคนฝันร้ายบ่อยกว่าคนอื่น นักศึกษาความฝันได้แนะนำว่า ผู้ที่มักฝันรายบ่อยๆ เป็นพวกเปราะบาง พวกความรู้สึกไว เข้าใจและรับความทุกข์ในระดับความตึงเครียดสูง ซึ่งในช่วงที่ยังตื่นอยู่พวกเขาได้นำสิ่งเหล่านี้เข้ามาไว้ในความฝัน นอกจากนี้ยังปรากฎว่าผู้หญิงมักประสบฝันร้ายมากกว่าผู้ชาย ไม่น่าแปลกใจนักที่ความรู้สึกสิ้นหวัง หรือการโดนข่มขู่มักเกิดขึ้นในความฝันของผู้หญิง
ฝันสยอง
ความรู้สึกตกใจกลัวในช่วงฝัน มักมีสาเหตุมาจากการที่สมองไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ซึ่งจะทำให้เกิดการเร้าปฎิกิริยาตอบโต้ทางร่างกาย ซึ่งอาจทำให้ตื่นได้ ผู้ฝันจะจำสาเหตุความน่ากลัวได้ไม่มากนัก เพราะมันจะหายวับไปจากจิตใจ ตามมาด้วยความรู้สึกผิด ความกระวนกระวายหรือความละอายใจ 
วิธีจัดการฝันร้าย
ถ้าความเครียดและความกังวลเป็นสาเหตุใหญ่ของฝันร้าย เป็นเหตุผลที่ดีในการพยายามลดระดับความตึงเครียดในชีวิตของคุณ วิธีที่ดีที่สุดในการจัดการกับความฝันร้ายก็คือการเผชิญหน้ากับมัน วิธีหนึ่งที่ประสบความสำเร็จคือ ให้คิดถึงฝันร้ายขณะที่คุณกำลังตื่นอยู่ และซักซ้อมอย่างเป็นขั้นตอน เมื่อเข้าสู่สภาวะคับขัน หรือเริ่มการไล่ล่าหรือการต่อสู้ แทนที่จะวิ่งหนีให้หันกลับไป เผชิญหน้ากับมัน หากไปไกลกว่านั้นแนะนำว่า คุณไม่ควรอยู่แค่ตรงนั้น แต่ต้องต่อสู้โต้ตอบด้วย ไม่ว่าจะเป็นด้วยท่าทางหรือร่างกาย ด้วยความคิดที่ว่าถ้าคุณซักซ้อมการเผชิญหน้าในชีวิตขณะที่ยังตื่นอยู่ มันจะเข้าไปในความจำของคุณทันที ดังนั้นคุณก็จะทำแบบเดียวกันนี้ในความฝัน วิธีเผชิญอีกแบบหนึ่งก็คือการคิดถึงมันซ้ำไปซ้ำมา หรือเขียนลงไปแล้วฟังหรืออ่านซ้ำๆ วิธีนี้เป็นการสร้างความคุ้นเคยกับมันและทำให้มันคลายอำนาจลง
วิธีสุดท้าย ให้ตั้งผู้พิทักษ์ขึ้นมา จะเป็นคนหรือสัตว์ก็ได้ (อาจเป็นสิ่งที่คุณรู้จักหรือคิดถึงได้ง่ายๆ) เรียกผู้พิทักษ์ให้มาช่วย บอกตัวเองว่าคราวหน้าตอนฝันร้าย ผู้พิทักษ์จะมาช่วยปกป้องคุณ จงเตือนตนเองว่าผู้พิทักษ์จะอยู่ที่นี่เมื่อคุณต้องการ         

1 ความคิดเห็น:

  1. ดูละครหลังข่าว แล้วชชอบเอามาฝันเป็นเรื่องราวค่ะ

    ตอบลบ