วันพุธที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2559

ความเข้าใจในเรื่องราศี


ความเข้าใจในเรื่องราศี
What's my Zodiac ?

คงมีหลายๆคนหลายๆท่านที่ได้ติดตามอ่านหรือติดตามชมในเรื่องของการทำนายทายทักตามดวงชะตาราศีต่างๆในสื่อหลายๆประเภทไม่ว่าจะเป็นนิตยสาร รายการโทรทัศน์ หรือแม้แต่ในเว็บไซต์ ซึ่งย่อมมีคนจำนวนหนึ่งที่เกิดคำถามข้อสงสัยขึ้นมาว่า เอ๊ะตกลงเรานั้นอยู่ในราศีอะไร หรือเป็นคนราศีอะไรกันแน่ เพราะเนื่องจากว่าวันเกิดกับราศีเราที่ได้นั้นไม่เหมือนกัน บางที่ก็บอกว่าเรานั้นราศีหนึ่ง แต่บางที่ก็บอกว่าเรานั้นอีกราศีหนึ่ง ผมจึงได้มาไขข้อข้องใจให้ทุกท่านได้ทราบกันดังนี้ครับ
การแบ่งราศีมีอยู่ 2 ประเภท
1.การแบ่งราศีตามหลักโหราศาสตร์สากล 
ราศีเมษ (เกิดระหว่างวันที่ 22 มีนาคม - 21 เมษายน)
ราศีพฤษภ (เกิดระหว่างวันที่ 22 เมษายน - 21 พฤษภาคม)
ราศีเมถุน (เกิดระหว่างวันที่ 22 พฤษภาคม - 21 มิถุนายน)
ราศีกรกฎ (เกิดระหว่างวันที่ 22 มิถุนายน - 21 กรกฎาคม)
ราศีสิงห์ (เกิดระหว่างวันที่ 22 กรกฎาคม - 21 สิงหาคม)
ราศีกันย์ (เกิดระหว่างวันที่ 22 สิงหาคม - 21 กันยายน)
ราศีตุลย์ (เกิดระหว่างวันที่ 22 กันยายน - 21 ตุลาคม)
ราศีพิจิก (เกิดระหว่างวันที่ 22 ตุลาคม - 21 พฤศจิกายน)
ราศีธนู (เกิดระหว่างวันที่ 22 พฤศจิกายน - 21 ธันวาคม)
ราศีมังกร (เกิดระหว่างวันที่ 22 ธันวาคม - 20 มกราคม)
ราศีกุมภ์ (เกิดระหว่างวันที่ 21 มกราคม - 20 กุมภาพันธ์)
ราศีมีน (เกิดระหว่างวันที่ 21 กุมภาพันธ์ - 21 มีนาคม)

2.การแบ่งราศีตามหลักโหราศาสตร์ไทยอินเดีย
ราศีเมษ (เกิดระหว่างวันที่ 13 เมษายน - 13 พฤษภาคม)
ราศีพฤษภ (เกิดระหว่างวันที่ 14 พฤษภาคม - 13 มิถุนายน)
ราศีเมถุน (เกิดระหว่างวันที่ 14 มิถุนายน - 14 กรกฎาคม)
ราศีกรกฎ (เกิดระหว่างวันที่ 15 กรกฎาคม - 16 สิงหาคม)
ราศีสิงห์ (เกิดระหว่างวันที่ 17 สิงหาคม - 16 กันยายน)
ราศีกันย์ (เกิดระหว่างวันที่ 17 กันยายน - 16 ตุลาคม)
ราศีตุลย์ (เกิดระหว่างวันที่ 17 ตุลาคม - 15 พฤศจิกายน)
ราศีพิจิก (เกิดระหว่างวันที่ 16 พฤศจิกายน - 15 ธันวาคม)
ราศีธนู (เกิดระหว่างวันที่ 16 ธันวาคม - 15 มกราคม)
ราศีมังกร (เกิดระหว่างวันที่ 16 มกราคม - 12 กุมภาพันธ์)
ราศีกุมภ์ (เกิดระหว่างวันที่ 13 กุมภาพันธ์ - 12 มีนาคม)
ราศีมีน (เกิดระหว่างวันที่ 13 มีนาคม - 12 เมษายน)

ส่วนใครจะเลือกใช้แบบไหนชอบการแบ่งแบบใด อันนี้ไม่มีกำหนดตายตัวที่แน่นอน เพราะขึ้นอยู่กับนักพยากรณ์จะเป็นผู้ใช้เป็นหลัก ดังนั้นเวลาที่เราจะดูว่าเรานั้นราศีอะไรก็ให้อิงตามที่นักพยากรณ์ท่านนั้นๆเป็นผู้กำหนดเอาไว้ แต่ถ้าเขาไม่ได้บอกไว้หรือถ้าเราไม่ทราบจริงๆ ให้พิจารณาประกอบกันทั้งสองราศีไปเลย เช่น สมมุติว่าเราเกิด วันที่ 8 พฤษภาคม บางที่ก็บอกว่าเราราศีเมษ บางที่ก็บอกว่าเราราศีพฤษภ เพื่อเป็นการตัดปัญหาง่ายๆ ก็ให้เราดูทั้งสองราศี ทั้งเมษและพฤษภประกอบกันไปเลยจะดีที่สุดครับ เพราะการแบ่งราศีลักษณะนี้ เป็นการทำเพื่อให้สามารถกำหนดเรื่องของการทำนายทายทักในแบบง่ายๆทั่วๆไปได้กว้างๆเท่านั้น หากจะทำนายดวงชะตากันจริงๆเป็นรายบุคคล ก็ต้องดูกันถึงวันเดือนปีเกิดและเวลาเกิดที่แน่ชัดกันไปเลยทีเดียว รวมทั้งยังมีศาสตร์การดูดวงแบบอื่นๆให้เลือกใช้กันอีกมากมาย จึงจะถูกต้องแม่นยำที่สุดครับ





วันพฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ประเภทของไพ่พยากรณ์

Fortune-Telling Cards Knowledge
ประเภทของไพ่พยากรณ์

   หลายๆคนคงเคยได้เห็น ได้ยิน ได้รู้จัก ได้สัมผัสกับการพยากรณ์ด้วยไพ่มาบ้างไม่มากก็น้อยโดยจะเป็นผู้มาขอคำทำนายหรือนักพยากรณ์เองก็ตาม แต่จะมีสักกี่คนที่จะรู้จักและเข้าใจว่าไพ่แต่ละชนิดแต่ละแบบที่ใช้ในการพยากรณ์ดูดวงกันต่างๆมากมายนั้น มีกี่แบบกี่ประเภทและมีแบบไหนอย่างไรบ้าง เพราะไพ่ที่ใช้ในการพยากรณ์ดูดวงในปัจจุบันถือว่ามีมากมายมหาศาลและหลากหลาย ถึงขนาดที่ว่าเล่นเอาหลายๆคนสับสนมึนงงเรียกผิดๆถูกๆ หรือสับสนปนเปสรุปคาดเดาเอาเองว่ามันต้องเป็นแบบนี้แบบนั้นกันไป เนื่องด้วยมีหลายๆท่านมักจะมาสอบถามกับผมว่าไพ่แต่ละชนิดมีอะไรบ้างแล้วแตกต่างกันยังไง ผมจึงขออธิบายเป็นความรู้ดังนี้อย่างทั่วถึงแล้วกันครับ

1.ไพ่ทาโรต์หรือไพ่ยิปซี Tarot Cards
จริงๆแล้วที่ถูกต้องควรเรียกไพ่ชนิดนี้ว่าไพ่ทาโรต์เพราะมาจากคำว่า Tarot แต่ส่วนใหญ่มักจะคุ้นเคยกับคำว่าไพ่ยิปซีเนื่องจากมีสาเหตุหลายประการคือ 1.เรียกง่ายจำง่าย 2.เรียกตามๆกันมา 3.คุ้นเคยชินกับภาพของชาวยิปซี 4.ไม่ค่อยได้ยินกับคำว่าไพ่ทาโรต์มาก่อน 5.คิดว่าไพ่ทาโรต์กับไพ่ยิปซีไม่เหมือนกันเพราะด้วยรูปลักษณะหน้าไพ่ ฯ
ซึ่งการที่คุณจะเรียกว่าไพ่ทาโรต์หรือไพ่ยิปซีนั้นก็ไม่ได้ผิดอะไรครับ เพราะขนาดนักพยากรณ์หมอดูบางท่าน(หรือหลายๆท่าน) ก็ยังเข้าใจกันไปตามสาเหตุข้างต้นกันอยู่ และถึงแม้จะเรียกว่าไพ่ยิปซีหรือไพ่ทาโรต์ผมก็ไม่ถือหรอกครับ เพราะถึงจะเรียกอะไรผมก็เอาไพ่ทาโรต์หรือไพ่ยิปซีนี้มาทำนายดูดวงให้กับทุกท่านได้อยู่ดี(ฮา) แต่ในเมื่อคราวนี้ได้รู้แล้วคราวหน้าก็ลองเรียกกันให้ถูกๆบ้างจะได้เคยชิน
ไพ่ทาโรต์หรือไพ่ยิปซีสามารถแบ่งประเภทย่อยๆได้ตามลักษณะของรูปหน้าไพ่ที่ทำออกมาได้ดังนี้
1.1 ไพ่ทาโรต์ยุคเก่าหรือแบบดั้งเดิม
ไพ่ทาโรต์แบบนี้จะสังเกตง่ายครับ คือรูปหน้าไพ่ที่ใช้ทำนายจะไม่ค่อยมีสัญลักษณ์รูปภาพ บรรยากาศในไพ่ไม่มีภาพขยายหรือการตกแต่งเพิ่มเติม สีสันการออกแบบจะเรียบง่ายไม่ค่อยมีจุดสังเกตหรืออะไรโดดเด่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในไพ่ชุดเหรียญ ถ้วย ไม้ และดาบ รูปในไพ่จะมีเพียงสิ่งเหล่านี้ตามจำนวนตัวเลข หรือไม่ก็มีเพียงตัวเลขกับรูปเหล่านี้อันเดียวโดดๆเท่านั้นไม่มีสิ่งใดเพิ่มเติม จึงทำให้มองแล้วรู้สึกว่าไม่ค่อยเข้าใจหรืออ่านไพ่ได้ยาก นักพยากรณ์ต้องอาศัยความจำในเรื่องความหมายของไพ่เพียงอย่างเดียว ไม่มีบรรยากาศรูปหน้าไพ่เข้ามาช่วย หลายๆท่านจึงไม่ค่อยนิยมในไพ่ทาโรต์แบบนี้กันมากนักโดยเฉพาะมือใหม่ เว้นแต่ผู้ที่ชื่นชอบในมนต์ขลังแบบคลาสสิคดั้งเดิม โดยตัวอย่างไพ่ลักษณะแบบนี้อันได้แก่ Lovers Tarot , Marseille Tarot , Tarot of  Wicca  เป็นต้น 
1.2 ไพ่ทาโรต์แบบประยุกต์หรือแบบผสม
ไพ่ทาโรต์แบบประยุกต์หรือแบบผสมนั้นคือการผสมผสานกันระหว่างไพ่ชุดใหญ่เมเจอร์ และไพ่ชุดเล็กไมเนอร์ถ้วย เหรียญ ไม้ และดาบ นำมารวมกับภาพเหตุการณ์ บุคคล สิ่งแวดล้อม สัญลักษณ์ และอื่นๆเพื่อเป็นการขยายความ มีจุดอ่านจุดสังเกต ที่ช่วยให้เข้าใจในการอ่านไพ่ทาโรต์ในแต่ละใบได้ง่ายขึ้น ดังนั้นไพ่ทาโรต์ลักษณะนี้จึงเป็นที่นิยมของนักพยากรณ์ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือมืออาชีพและผู้มาดูดวงจำนวนมาก หาซื้อได้ง่ายและพบเห็นกันโดยทั่วไป จนไปถึงมีการทำไพ่ทาโรต์ลักษณะนี้ออกมามากมายหลายชุดหลายแบบ เนื่องจากยังคงมีความเป็นดั้งเดิมของไพ่และมีภาพเหตุการณ์ที่มองแล้วช่วยให้เข้าใจได้ง่ายในทันที โดยตัวอย่างของไพ่ทาโรต์ลักษณะแบบนี้ อันได้แก่ Rider-Waite , Hanson Robert , Gilled Tarot , Robin Wood , Witches Tarot , Llewellyn's Classic Tarot ฯลฯ เป็นต้น




1.3 ไพ่ทาโรต์สมัยใหม่หรือไพ่ทาโรต์แนวสภาวะ
ไพ่ทาโรต์สมัยใหม่จะเป็นอะไรที่แตกต่างจากแบบดั้งเดิมและแบบประยุกต์ค่อนข้างมากจนบางชุดบางสำรับออกจะฉีกแนวโดยสิ้นเชิงไปเลยก็มีเหมือนกัน ไพ่ทาโรต์ลักษณะนี้จะยังคงมีจำนวนของไพ่ การแบ่งออกเป็นเมเจอร์และไมเนอร์เหมือนไพ่ทาโรต์อื่นๆ แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปก็คือรูปลักษณะหน้าไพ่ที่ไม่ได้ใช้ถ้วย เหรียญ ไม้ และดาบเข้ามาเป็นองค์ประกอบหรือปรากฎอยู่ในไพ่ ไม่ก็ถ้าหากมีก็จะค่อนข้างน้อยมาก ส่วนใหญ่จะเน้นการแสดงออกเป็นภาพของเรื่องราวเหตุการณ์ สิ่งแวดล้อม บุคคล หรือสิ่งอื่นๆในไพ่ให้เป็นตัวบอกเรื่องราวซะมากกว่า ดังนั้นไพ่ทาโรต์ลักษณะนี้จึงดูจะเหมาะกับนักพยากรณ์มืออาชีพหรือผู้ที่รู้สึกเบื่อกับไพ่ทาโรต์แบบเดิมๆ ต้องการที่จะลองใช้ไพ่ทาโรต์แบบใหม่ๆเพื่อการเรียนรู้ที่มากขึ้น ซึ่งการที่จะมาใช้ไพ่ทาโรต์แบบสมัยใหม่นี้ต้องมีใจที่เปิดกว้างพร้อมที่จะรับและเรียนรู้กับอะไรใหม่ๆ เพราะแน่นอนว่ามันก็มีหลายสิ่งหลายอย่างที่แตกต่างจากไพ่ทาโรต์แบบดั้งเดิมหรือแบบประยุกต์ที่ได้เคยรู้จักและเข้าใจมาก่อน โดยตัวอย่างของไพ่ทาโรต์ลักษณะแบบนี้ อันได้แก่ Pagan Tarot , 78 Doors Tarot , Law of Attraction Tarot , Osho Zen Tarot , The Bright Idiea Tarot , Goddess Tarot , Vanessa Tarot , Root of Asia ฯลฯ เป็นต้น






2.ไพ่ออราเคิล Oracle Cards
Oracle แปลว่า เทพพยากรณ์ , การทำนายให้คำปรึกษา , การทำนายที่ศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นไพ่ออราเคิลจึงแปลว่าไพ่เทพพยากรณ์ หรือไพ่ที่ใช้ในการทำนายให้คำปรึกษา ไพ่ออราเคิลนี้จะแตกต่างจากไพ่ทาโรต์อยู่หลายประการ อย่างเช่น จำนวนของไพ่ เนื้อหาที่มาของไพ่ ความหมายในการทำนายของไพ่ เป็นต้น เนื่องจากไพ่ออราเคิลในแต่ละชุดแต่ละสำรับขึ้นอยู่กับว่าจุดประสงค์ของผู้สร้างและผู้ออกแบบจะนำเอาเรื่องอะไรมาใช้ในการทำไพ่ออราเคิล เพราะสามารถเอาเรื่องนั้นเรื่องนี้มาทำได้ไม่ตายตัว เช่น อี้จิง เทพยดานางฟ้า เทพพราหมณ์ฮินดู สัตว์ต่างๆ หรือจะเป็นเรื่องความรักโดยเฉพาะก็สามารถทำได้ ดังนั้นไพ่ออราเคิลนี้ขึ้นอยู่กับความชอบและความถนัดของนักพยากรณ์จะนำมาใช้และศึกษาเพิ่มเติมนอกเหนือไปจากการใช้ไพ่ทาโรต์หรือการทำนายแบบอื่นๆเสียมากกว่า โดยตัวอย่างของไพ่ออราเคิล อันได้แก่ Love Pack Oracle , ไพ่ชุดจุดเทียน , ไพ่เทพฮินดู , ไพ่พรหมญาณ . Tao Oracle ไพ่อี้จิง , ไพ่กรรม ฯลฯ เป็นต้น








    
3.ไพ่อื่นๆหรือไพ่ประยุกต์ Another Cards
ไพ่เหล่านี้จะอยู่ในกลุ่มที่เรียกว่าไม่ได้ทำขึ้นเพื่อใช้ในการดูดวงพยากรณ์โดยเฉพาะ หรือมีการนำไพ่อื่นๆมาปรับใช้ได้เพื่อการดูดวง แต่ก็สามารถทำนายได้ชัดเจนแม่นยำไม่แพ้ไพ่ชนิดอื่นๆตามข้างต้นที่ได้กล่าวมา เพียงแต่ว่าต้องมีการศึกษาเข้าใจความหมายในไพ่นั้นๆอย่างเข้าใจถ่องแท้จึงจะสามารถนำไปใช้ดูดวงได้อย่างถูกต้อง เพราะถ้าหากจู่ๆนำไปใช้ในการพยากรณ์โดยทันทีจะไม่รู้วิธีการและความหมายในไพ่ได้เลย ซึ่งไพ่ต่างๆที่อยู่ในกลุ่มนี้ได้แก่ ไพ่ป๊อก , ไพ่ผ่อง หรือไพ่อื่นๆที่ใช้ในการเล่นเกมเล่นพนัน



วันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2556

อิทธิพลของสีกับชีวิต

อิทธิพลของสีกับชีวิต
Color of Life

ในทุกๆวันเราจะเห็นการนำเอาสีสันต่างๆมากมายมาแต่งเติมและเพิ่มบรรยากาศให้กับเรื่องราวต่างๆได้รู้สึกสวยงามและมีอารมณ์ร่วมไปกับมัน หากโลกนี้ขาดสีสันก็ย่อมทำให้เราดูเหมือนหม่องและชีวิตดูราบเรียบเกินไปแน่ๆ ดังนั้นเราจะมาพูดถึงเรื่องราวของสีต่างๆที่มีผลต่อชีวิตของเรากันดีกว่า
จากที่ทราบกันดีว่าเรารู้จักใช้สีในการวาดและแต่งแต้มกันมาตั้งแต่ยุคสมัยยุคหินดึกดำบรรพ์ซึ่งในช่วงแรกๆนั้นจะเป็นการใช้สีจากธรรมชาติเป็นหลัก เช่น เลือดสัตว์ ใบไม้ ถ่านไฟ ดินโคลนเป็นต้น ยุคสมัยต่อมาก็เริ่มมีการพัฒนาจากการละลายของสารและหินแร่สีชนิดต่างๆ การเริ่มใช้สารเคมีเข้ามาทดแทน จนปัจจุบันก็มีผลิตภัณฑ์ของสีมาให้เห็นเยอะแยะมากมายหลายประเภทตั้งแต่ใช้ในงานศิลปะของเด็กจนถึงการทาสีอาคารสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ ซึ่งแน่นอนว่าตั้งแต่เด็กเราคงเคยเรียนวิชาศิลปะมาบ้างแล้ว และพอจะทราบดีว่าสีแต่ละสีนั้นให้อารมณ์ความรู้สึกที่แตกต่างกัน   แบ่งออกเป็นสีโทนร้อนและเย็น เช่น สีแดง สีเหลือง สีส้ม ให้ความรู้สึกสว่างคึกคัก เกิดความอบอุ่น นับว่าเป็นสีโทนร้อน ส่วนสีเขียว น้ำเงิน ฟ้า ให้ความรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลาย เกิดความสงบ นับว่าเป็นสีโทนเย็น ดังนั้นเมื่อพูดถึงอิทธิพลของสีกับชีวิต ก็ต้องมาศึกษากันว่าในแต่ละคนนั้นสีสันมีผลอย่างไรกับเขาบ้าง

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์
สีแดง ส่งเสริมตนเองโดยทั่วไป คนสนิทและบริวาร
สีเหลือง ส่งเสริมเรื่องอายุและสุขภาพ
สีชมพู ส่งเสริมอำนาจ ยศ ชื่อเสียง
สีเขียว ส่งเสริมทรัพย์สินการเงิน
สีม่วง ส่งเสริมญาติพี่น้อง ความมั่นคง
สีส้ม ส่งเสริมความตั้งใจเพียรพยายาม
สีดำและสีเทา ส่งเสริมคนช่วยเหลืออุปถัมภ์
สีฟ้าและสีน้ำเงิน สีที่ไม่เหมาะควรหลีกเลี่ยง

ผู้ที่เกิดวันจันทร์
สีเหลือง ส่งเสริมตนเองโดยทั่วไป คนสนิทและบริวาร
สีชมพู ส่งเสริมเรื่องอายุและสุขภาพ
สีเขียว ส่งเสริมอำนาจ ยศ ชื่อเสียง
สีม่วง ส่งเสริมทรัพย์สินการเงิน
สีส้ม ส่งเสริมญาติพี่น้อง ความมั่นคง
สีดำและสีเทา ส่งเสริมความตั้งใจเพียรพยายาม
สีฟ้า ส่งเสริมคนช่วยเหลืออุปถัมภ์
สีแดง สีที่ไม่เหมาะควรหลีกเลี่ยง

ผู้ที่เกิดวันอังคาร
สีชมพู ส่งเสริมตนเองโดยทั่วไป คนสนิทและบริวาร
สีเขียว ส่งเสริมเรื่องอายุและสุขภาพ
สีม่วง ส่งเสริมอำนาจ ยศ ชื่อเสียง
สีส้ม ส่งเสริมทรัพย์สินการเงิน
สีดำและสีเทา ส่งเสริมญาติพี่น้อง ความมั่นคง
สีฟ้า ส่งเสริมความตั้งใจเพียรพยายาม
สีแดง ส่งเสริมคนช่วยเหลืออุปถัมภ์
สีเหลือง สีที่ไม่เหมาะควรหลีกเลี่ยง

ผู้ที่เกิดวันพุธ (กลางวัน)
สีเขียว ส่งเสริมตนเองโดยทั่วไป คนสนิทและบริวาร
สีม่วง ส่งเสริมเรื่องอายุและสุขภาพ
สีส้ม ส่งเสริมอำนาจ ยศ ชื่อเสียง
สีดำและสีเทา ส่งเสริมทรัพย์สินการเงิน
สีฟ้าและสีน้ำเงิน ส่งเสริมญาติพี่น้อง ความมั่นคง
สีแดง ส่งเสริมความตั้งใจเพียรพยายาม
สีเหลือง ส่งเสริมคนช่วยเหลืออุปถัมภ์
สีชมพู สีที่ไม่เหมาะควรหลีกเลี่ยง

ผู้ที่เกิดวันพุธ (กลางคืน)
สีดำและสีเทา ส่งเสริมตนเองโดยทั่วไป คนสนิทและบริวาร
สีฟ้าและสีน้ำเงิน ส่งเสริมเรื่องอายุและสุขภาพ
สีแดง ส่งเสริมอำนาจ ยศ ชื่อเสียง
สีเหลือง ส่งเสริมทรัพย์สินการเงิน
สีชมพู ส่งเสริมญาติพี่น้อง ความมั่นคง
สีเขียว ส่งเสริมความตั้งใจเพียรพยายาม
สีม่วงส่งเสริมคนช่วยเหลืออุปถัมภ์
สีส้ม สีที่ไม่เหมาะควรหลีกเลี่ยง

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี
สีส้ม ส่งเสริมตนเองโดยทั่วไป คนสนิทและบริวาร
สีดำและสีเทา ส่งเสริมเรื่องอายุและสุขภาพ
สีฟ้าและสีน้ำเงิน ส่งเสริมอำนาจ ยศ ชื่อเสียง
สีแดง ส่งเสริมทรัพย์สินการเงิน
สีเหลือง ส่งเสริมญาติพี่น้อง ความมั่นคง
สีชมพู ส่งเสริมความตั้งใจเพียรพยายาม
สีเขียว ส่งเสริมคนช่วยเหลืออุปถัมภ์
สีม่วง สีที่ไม่เหมาะควรหลีกเลี่ยง

ผู้ที่เกิดวันศุกร์
สีฟ้าและสีน้ำเงิน ส่งเสริมตนเองโดยทั่วไป คนสนิทและบริวาร
สีแดง ส่งเสริมเรื่องอายุและสุขภาพ
สีเหลือง ส่งเสริมอำนาจ ยศ ชื่อเสียง
สีชมพู ส่งเสริมทรัพย์สินการเงิน
สีเขียว ส่งเสริมญาติพี่น้อง ความมั่นคง
สีม่วง ส่งเสริมความตั้งใจเพียรพยายาม
สีส้ม ส่งเสริมคนช่วยเหลืออุปถัมภ์
สีดำและสีเทา สีที่ไม่เหมาะควรหลีกเลี่ยง

ผู้ที่เกิดวันเสาร์
สีม่วง ส่งเสริมตนเองโดยทั่วไป คนสนิทและบริวาร
สีส้ม ส่งเสริมเรื่องอายุและสุขภาพ
สีดำและสีเทา ส่งเสริมอำนาจ ยศ ชื่อเสียง
สีฟ้าและสีน้ำเงิน ส่งเสริมทรัพย์สินการเงิน
สีแดง ส่งเสริมญาติพี่น้อง ความมั่นคง
สีเหลือง ส่งเสริมความตั้งใจเพียรพยายาม
สีชมพู ส่งเสริมคนช่วยเหลืออุปถัมภ์
สีเขียว สีที่ไม่เหมาะควรหลีกเลี่ยง